วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา

Google      You tube       psv       สพม11

(1.)ปรับลุค ‘ร้านอาหารริมทาง’ นำร่อง ‘เยาวราช’ มุ่งครัวโลก

กรมอนามัย จับมือ กทม.นำร่องปรับปรุงร้านอาหารริมทาง‘เยาวราช’ เน้นปลอดภัยมุ่งสู่ครัวโลก กำหนดสเปก’รถเข็น-แผงอาหาร-ผู้ค้า’ ตั้งเป้าปีเดียวผ่านเกณฑ์ 85%

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว “โครงการเยาวราชต้นแบบ อาหารปลอดภัยสู่อาเซียน” ที่โรงแรมแกรนด์ เดอ วิลล์ ว่า ปีนี้ได้มอบหมายให้กรมอนามัยเร่งรัดให้ร้านอาหารและแผงลอยพัฒนาให้ได้มาตรฐาน โดยร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) สมาคมภัตตาคารไทย และประชาคมผู้ประกอบการค้าอาหารเยาวราช นำร่องยกระดับมาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร เตรียมพร้อมก้าวสู่ครัวโลก

“ขณะนี้ได้เปิดอบรมผู้ประกอบการร้านอาหารย่านเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตพระนคร จำนวน 200 คน เพื่อสร้างความเข้าใจมาตรฐานรถเข็นและแผงขายอาหารปลอดภัย เพื่อสร้างให้เยาวราชเป็นแหล่งอาหารสะอาดปลอดภัยและรสชาติอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก” นพ.ชลน่านกล่าว

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ออกแบบและกำหนดมาตรฐานรถเข็นขายอาหารและแผงลอย ต้องประกอบด้วย 1.ตัวรถหรือแผงลอยวางอาหารต้องทำจากวัสดุที่แข็งแรง ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ ทำความสะอาดง่าย เช่น สแตนเลส อะลูมิเนียม หรือเหล็ก แต่ต้องไม่เป็นสนิม ไม่มีคม สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร 2.อาหารที่ปรุงสำเร็จต้องใส่ในภาชนะ หรือวางในตู้ที่มีการปกปิดมิดชิด เครื่องปรุงและวัตถุดิบต้องบรรจุในภาชนะที่สะอาดและมีฝาปิด สารที่ใช้ปรุงแต่งอาหารต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) น้ำดื่มและน้ำแข็งบริโภคต้องสะอาด วางอยู่สูงจากพื้น 60 เซนติเมตร ห้ามนำอาหารหรือสิ่ง ของอื่นๆ ไปแช่รวมในภาชนะเก็บน้ำแข็งบริโภค และต้องกำจัดขยะมูลฝอยหรือเศษอาหาร ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และ 3.ผู้ปรุงหรือผู้ค้าขายอาหารต้องมีสุขอนามัยดี รักษาความสะอาด สวมเสื้อมีแขน สวมหมวกหรือเน็ตคลุมผมและผ้ากันเปื้อนทุกครั้ง ตัดเล็บสั้น สวมหน้ากากอนามัย หากผู้ปรุงอาหารมีบาดแผลที่มือต้องปิดบาดแผลและสวมถุงมือให้มิดชิด แยกเขียงอาหารสุกและอาหารดิบ

“ปัจจุบันทั่วประเทศมีรถเข็นหรือแผงลอยสำหรับขายอาหารประเภทต่างๆ 103,063 ราย ขณะนี้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 86,913 ราย คิดเป็นร้อยละ 84 และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มให้เป็นร้อยละ 85” นพ.เจษฎากล่าว

(2.) 4 สูตร น้ำปั่นเพื่อสุขภาพ

          น้ำมะเฟือง
มะเฟืองอุดมไปด้วยวิตามินเอ, บี1 และบี 2, ไนอะซีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และพลังงานสารอาหารต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง แก้ร้อนใน ดับกระหาย ควบคุมการเต้นของหัวใจให้สม่ำเสมอ และช่วยให้เลือดแข็งตัวง่าย สำหรับคนที่นอนไม่ค่อยหลับ ชอบเป็นนกฮูกตอนกลางคืน ก็หามะเฟืองมาทานแก้อาการนอนไม่หลับกันได้
 น้ำกระเพราปั่น
ใบกระเพราช่วยแก้ไอ ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่วนคะน้า มีสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร ลำไส้ ปอดและ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคมีความแข็งแรงสมบูรณ์
  น้ำว่านหางจระเข้ปั่น
ว่านหางจระเข้ มีสารสำคัญช่วยออกฤทธิ์สมานแผล ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเซลที่อยู่รอบๆ แผล และช่วยบำรุงร่างกายเนื่องจากการอ่อนเพลียพักผ่อนน้อย ช่วยระบบขับถ่ายให้เป็นปรกติ น้ำวุ้นจากใบใช้ทาผิวรักษาสิวฝ้า และขจัดรอยแผลเป็น

       น้ำกีวี+องุ่นปั่น
สูตรนี้เป็นสูตรเสริมคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เพราะกีวีอุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดี่ยม และเบต้าแคโรทีน ส่วนองุ่นเขียว ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญอาหาร ล้างพิษ ดีต่อเลือดลม ช่วยขับปัสสาวะ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

(3.)กินโยเกิร์ตไขมันต่ำ กันความดันเลือดสูง

กินโยเกิร์ตไขมันต่ำกันความดันเลือดสูง ตัวเลขความดันตัวบนจะต่ำกว่าคนไม่กิน

แพทยสมาคมโรคหัวใจอเมริกันเปิดเผยว่า ได้มีการศึกษาพบว่า การกินโยเกิร์ตไขมันต่ำมาเป็นเวลานาน จะช่วยไม่ให้เกิดเป็นความดันโลหิตสูง

การศึกษากับอาสาสมัคร 2,000 กว่าคน นาน 15 ปี ทำให้ รู้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขาจะมีความดันโลหิตตัวบนต่ำกว่าคนที่ไม่กิน ซึ่งความดันโลหิตตัวบนเป็นตัวเลขที่วัดได้ตอนที่หัวใจบีบตัว

รายงานกล่าวต่อไปว่าโดยเฉลี่ยแล้วคนเหล่านี้เป็นความดันโลหิตสูงน้อยกว่าผู้ที่ไม่กินร้อยละ 31 ผู้ที่กินส่วนใหญ่จะกินอย่างน้อยในปริมาณถ้วยขนาด 180 ซีซี 1 ถ้วย 3 วันหนหนึ่ง.

(4.)กินกุ้งอย่างไรให้ห่างไกลอาการแพ้

รู้สาเหตุ+สังเกตอาการแพ้กุ้ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภัคดี สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า
อาการแพ้กุ้ง คือหนึ่งในกลุ่มอาการแพ้อาหาร (food allergy) มีสาเหตุจากสารในอาหาร (Antigen) หรือสารที่เกิดขึ้นจากกระบวนการย่อยอาหาร (breakdown product) กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ขึ้นมาต่อต้าน อาการแพ้จึงปรากฏ

อาการแพ้จะแสดงออกใน 3 ระบบ คือ
1. ระบบผิวหนัง เช่น มีผื่นขึ้น
2. ระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง
3. ระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด บางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

อย่างไรก็ตามบางคนที่ไม่เคยมีอาการแพ้กุ้งมาก่อน แต่กลับมีอาการแพ้เมื่ออายุเพิ่มขึ้น
แม้ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านตั้งข้อสังเกตว่า อาการแพ้ที่เกิดจากภูมิคุ้มกันภายในร่างกายบกพร่อง อาจมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก กินอาหารไม่ถูกสัดส่วน พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือหลายปัจจัยร่วมกัน
แพ้สารอะไรในตัวกุ้ง

โครงการวิจัยล่าสุด ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2553 เรื่อง “การศึกษาหาสารก่อภูมิแพ้ที่จำเพาะที่เป็นสาเหตุของการแพ้กุ้งน้ำจืดและกุ้งทะเลที่นิยมบริโภคในคนไทย” ชี้ให้เห็นว่า กุ้งน้ำจืดที่พบรายงานการแพ้มากที่สุดคือ กุ้งก้ามกราม ส่วนกุ้งทะเล คือ กุ้งกุลาดำ ทั้งนี้อาการแพ้อาจเกิดจากกุ้งเพียงชนิดเดียว หรือมากกว่า 1 ชนิด

ดร.สุรพล พิบูลโภคานันท์ นักวิจัยผู้ควบคุมโครงการ จากสถาบันอณูชีววิทยาและพันธุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครที่แพ้กุ้งมาทดสอบและวิเคราะห์หาสารก่อภูมิแพ้ จึงค้นพบว่า สารก่อภูมิแพ้ที่จำเพาะต่อคนไทยในกุ้งก้ามกราม คือ โปรตีนฮีโมไซยานิน ส่วน สารก่อภูมิแพ้ในกุ้งกุลาดำ คือ โปรตีนลิพิด บายดิง (lipid binding protein) และโปรตีน แอลฟาแอกตินิน (alpha actinin protein)

(5. )5 อาหารปลุกพลังในตัวชาย

ถ้าเซ็กซ์คือส่วนประกอบของความรัก แต่ถ้าวันหนึ่งมันเริ่มหดหายไป หนุ่มๆคงทำใจยอมรับได้ยาก จนเกิดการคิดค้นทั้งตัวยาหรือจะสมุนไพรชนิดใดก็ตามที่ช่วยปลุกพลัง ออกมาหลอกล่อเงินในกระเป๋าหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ ผู้อยากกลับมาฟิตปั๋งคุณรู้ไหมว่าบางทีแค่อาหารง่ายๆก็สามารถปลุกพลังหนุ่มให้กลับมาซู่ซ่าโดยไม่เปลืองสตางค์มากๆ

       กล้วยหอม
นอกจากกล้วยหอมจะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อึดขึ้นแล้ว มันยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมีเซ็กซ์ด้วย เพราะกล้วยจะมี โปตัสเซียมสูง ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทและมีวิตามินบี 6 ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทอีกด้วย

       แครอทและแอปริคอท
แครอท อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเจ้าเบต้าแคโรทีนนี้เองจะช่วยเพิ่มปริมาณสเปิร์มและระดับฮอร์โมนเพศโปรเจสเตอโรน ส่วนแอปริคอท มีทั้งเบต้าแคโรทีนและแมงกานีสสูง ซึ่งจะช่วยให้ปฏิสนธิได้ง่ายขึ้น ซึ่งสรุปง่ายๆ คือสารอาหารทั้งสองชนิดนี้จะช่วยในการสร้างฮอร์โมน

     มะเดื่อ
มะเดื่อ ผลไม้ที่มากด้วยวิตามินบีชนิดไนอะชิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในทุกส่วนของร่างกายและยังมีแมกนีเซียมสูงซึ่งจำเป็นต่อการสร้างฮอร์โมน

    ปลาและหอย
กินปลานอกจากจะฉลาดแล้วยังช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย ส่วนหอยนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะมันกลายเป็นความเชื่อของชนหลายชาติไปแล้วว่า การกินหอยดิบๆจะช่วยเพิ่มพลังทางเพศ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง โดยมีการวิจัยพบว่า ในหอยนางรมหอยนางรมมีแร่ธาตุสังกะสีสูง เพราะสังกะสีช่วยให้สเปิร์มเคลื่อนไหวได้ไวขึ้น คือมันจะช่วยเพิ่มโอกาสการมีลูกนั่นเอง และ สังกะสียังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดต่อมลูกหมากบวมอักเสบ ซึ่งถ้าเกิดชายหนุ่มท่านใดก็เตรียมใจรับกับปัญหาทางเพศได้เลย

       กรดโอเมก้า 3
โอเมก้า 3 คงไม่มีประโยชน์แค่ให้เด็กๆกินแล้วฉลาดขึ้นแน่นอน เพราะในอาหารทะเลมีสารอีกชนิดหนึ่งที่คล้ายฮอร์โมนพลอสตาแกลนดิน ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญต่อระบบประสาทในด้านการตอบสนองทางเซ็กซ์ และยังเคยใช้เป็นสารที่ใช้ฉีดเฉพาะในชายที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้ผนังเส้นเลือดคลายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ดีขึ้น แต่อย่าเพิ่งตกใจรีบไปกว้านซื้อน้ำมันปลาแคปซูลกันมาหมดครับ เพราะมันจะให้ผลไม่เหมือนอาหารจากธรรมชาติหรอก

(6.)วิธีดูแลหัวใจ คนที่คุณรัก

8 วิธีดูแล หัวใจ คนที่คุณรัก

อาการน้อยใจ เจ็บใจ เสียใจ อาจเกิดขึ้นและมีกันทุกคน แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ทำให้ใครตายในฉับพลันเท่ากับ “โรคหัวใจ” หนึ่งในโรคร้ายอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนทั่วโรค (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) จะด้วยไลฟ์สไตล์ที่รักสนุก กินดื่ม เที่ยว สุดเหวี่ยง หรืออย่างไรก็ตาม วันนี้เราอยากให้คุณและคนที่คุณรักหันมาดูแลหัวใจกันเถอะ

 1. หยุดสูบบุหรี่เสียแต่วันนี้ เพราะบุหรี่คือสาเหตุแรกๆ ของโรคร้ายหลายชนิด รวมทั้งอันตรายต่อหัวใจด้วย เพราะมันจะเข้าไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง และทำให้เลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม เป็นสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองอุดตัน

 2. รู้จักสำรวจดูหน้าท้องตัวเองและเอว อย่าให้หนาเกินไปและระวังอย่าให้หน้าท้องใหญ่ขึ้นมากเกินไป เพราะจะทำให้คุณเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น

3. สำคัญมากสำหรับการออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยก็หาเวลาว่างสัก 30-60 นาทีต่อวัน ไปออกกำลังกาย เพราะจะช่วยลดระดับความดันโลหิต ลดความเครียด และทำให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ที่เป็นประโยชน์

 4. ลดการรับประทานอาหารรสชาติเค็ม และกินพริกไทยเพื่อจะช่วยลดระดับความดันโลหิต รับประทานอาหารจืดยืดอายุได้จริงๆ

5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมัน ไม่ว่าจะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัวคือ ไขมันสัตว์และเนื้อแดง ส่วนไขมันทรานส์คือ ไขมันที่ได้จากกระบวนการ Hydrogenation เพื่อให้กลายเป็นน้ำมันข้นขึ้น มีสีขาวละลายหรือปนกับน้ำง่ายเก็บได้นานขึ้น เช่น ครีมเทียม เนยเทียม หลีกเลี่ยงน้ำมันทอดที่ใช้ซ้ำหลายครั้ง รวมทั้งอาหารที่ใช้ไขมันประเภทนี้

       6. หมั่นรับประทานผักและผลไม้ ที่หลากสีสัน เพราะผักและผลไม้อย่างผักโขม แครอต ลูกพีชและเบอร์รี จะอุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แอนตี้ออกซิแดนต์และไฟเบอร์ ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อีกทางหนึ่ง

     7. หมั่นกินปลา อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับกรดไขมันดีๆ ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของหัวใจ

       8. ดื่มไวน์แดง แต่แค่พอประมาณนะ เอาแค่วันละ 1 แก้ว ก็จะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้